แบตเตอรี่รถยนต์ทำงานอย่างไร
แบตเตอรี่รถยนต์เป็นอุปกรณ์ที่สะสมและ จ่ายไฟฟ้าโดยปฏิกริยาทางเคมีไฟฟ้า มันสะสมพลังงานเคมีและถูกนำไปใช้ในรูปของพลังงานไฟฟ้า เมื่อแบตเตอรี่ถูกต่อวงจรเข้ากับอุปกรณ์ที่ใช้งาน เช่น สตาร์ทเตอร์ พลังงานเคมีถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้าและกระแสไฟผ่านวงจร
การทำงานของแบตเตอรี่
เมื่อ โลหะต่างชนิด 2 ชนิด เช่น แผ่นธาตุบวกและลบ จุ่มอยู่ในสารละลายไฟฟ้า (กรดซัลฟูริคเอซิค) ประกอบกันขึ้นเป็นแบตเตอรี่และให้แรงดันไฟฟ้า ซึ่งแบตเตอรี่รถยนต์โดยทั่วไปมีแรงดันไฟฟ้าต่อเซล 2.1 โวล์ท พลังงานไฟฟ้าเกิดขึ้นโดยปฏิกริยาทางเคมีระหว่างโลหะทั้งสองและสารละลายไฟฟ้า ปฏิกริยาดังกล่าวจะเกิดขึ้นและมีกระแสไหลเมื่อมีวงจรต่อระหว่างขั้วบวกและลบ (เช่น ไฟหน้ารถ เมื่อต่อเข้ากับแบตเตอรี่)
การทำงานของแบตเตอรี่รถยนต์ ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบ คือ
1. Lead dioxide (PbO2) ลีดไดอ๊อกไซด์บนแผ่นธาตุบวก
2. Sponger lead (Pb) ฟองตะกั่วบนแผ่นธาตุลบ
3. Sulphuric acid (H2SO4) สารละลายไฟฟ้า
จุดประสงค์ของการใช้แบตเตอรี่
ประโยชน์ของแบตเตอรี่รถยนต์มี 3 ประการ
1. จ่ายพลังงานให้สตาร์ทเตอร์และระบบจุดระเบิดของเครื่องยนต์ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงาน
2. จ่ายพลังงานส่วนเกินให้กับรถยนต์เมื่อการใช้ไฟฟ้าในรถยนต์เกินปริมาณที่ระบบชาร์จไฟในรถยนต์สามารถผลิตได้
3. รักษาระดับโวล์ทเทจของระบบไฟฟ้าในรถยนต์ให้คงที่ ช่วยป้องกันอุปกรณ์ไฟฟ้าไม่ให้เกิดความเสียหาย
ข้อเท็จจริงบางอย่างเกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์
- แบตเตอรี่รถยนต์ใหม่จากโรงงานมีอายุเฉลี่ย 2.9 ปี
- 75% ของแบตเตอรี่รถยนต์ ที่เสื่อมสภาพก่อนเวลา มีสาเหตุมากจากเกลือซัลเฟทพอกพูนบนแผ่นธาตุ
เข้าชม : 6908
|