ธรรมรัตน์บริการ จำหน่ายและรับติดตั้งแบตเตอรี่รถยนต์   
หน้าแรก หน้ารวมสินค้า ค้นหาสินค้า บริการของเรา สาระความรู้ คำถาม-คำตอบ เกี่ยวกับเรา ติดต่อเรา

GS Baterry
FB Baterry
Yuasa
3K Baterry
Boliden
Panasonic
BOSH

GF Battery

 

 


รับชำระด้วยบัตรเครดิต
** กรณีบริการนอกสถานที่
กรุณาแจ้งก่อนรับบริการ **

  




เธ„เธงเธฒเธกเธฃเธนเน‰เน€เธเธตเนˆเธขเธงเธเธฑเธšเนเธšเธ•เน€เธ•เธญเธฃเธตเนˆ
เธ„เธงเธฒเธกเธฃเธนเน‰เน€เธเธตเนˆเธขเธงเธเธฑเธšเนเธšเธ•เน€เธ•เธญเธฃเธตเนˆเธฃเธ–เธขเธ™เธ•เนŒ

พฤหัสบดี ที่ 25 เดือน มกราคม พ.ศ.2550


ความรู้เกี่ยวกับแบตเตอรี่รถยนต์

แบตเตอรี่รถยนต์ ทำหน้าที่ป้อนกระแสไฟฟ้าให้อุปกรณ์ต่างๆของเครื่องยนต์เพื่อให้ทำงานได้ เช่น มอเตอร์สตาร์ท ระบบจุดระเบิด ในขณะที่สตาร์ทรถยนต์ นอกจากนี้ยังทำหน้าที่ป้อนพลังงานให้กับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกหลายๆอย่าง ด้วย เช่น ระบบไฟส่องสว่าง วิทยุ เป็นต้น.

แบตเตอรี่รถยนต์ ไม่ใช่แหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า แต่เป็นแหล่งเก็บไฟฟ้าสำรอง เมื่อใดก็ตามที่ไดร์ชาร์จ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟฟ้า ไม่สามารถผลิตกระแสไฟฟ้าได้ทัน เช่น การขับขี่ในตอนกลางคืนซึ่งใช้ระบบไฟเยอะกว่าปกติ ก็จะดึงไฟจากแบตเตอรี่มาใช้ ขณะเดียวกันถ้าไดร์ชาร์จทำงานได้ดีขึ้น หรือ หมุนเร็วขึ้น ก็จะมีกระแสไฟฟ้าเหลือจากการใช้งาน ซึ่งก็จะถูกส่งกลับเข้าไปยังแหล่งเก็บไฟฟ้าสำรอง(แบตเตอรี่)จนกว่าจะเต็ม แบตเตอรี่จะถูกจ่ายไฟออกอย่างเดียวก็เฉพาะตอนสตาร์ทเครื่องยนต์เท่านั้น เพื่อส่งกระแสไฟเข้าสู่มอเตอร์สตาร์ท และ ระบบต่างๆของเครื่องยนต์ เมื่อเครื่องยนต์สตาร์ทติด และทำงานแล้ว ไดร์ชาร์จก็จะทำหน้าที่ประจุไฟเข้าแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง นั่นก็หมายความว่า กระแสไฟฟ้าจะถูกจ่ายออกไป และ ถูกประจุเพิ่มเข้าไป หมุนเวียนเข้าออกแบตเตอรี่อยู่เสมอ ไม่ได้จ่ายออกไปจนหมดอย่างเดียว นั่น หมายความว่าแบตเตอรี่รถยนต์จะหมดได้ก็มีอยู่เพียง 2 กรณี นั่นก็คือ

    1.เก็บไฟไม่อยู่ หรือ หมดอายุการใช้งาน 

    2.ไดร์ชาร์จทำงานผิดปกติ หรือ บกพร่อง ซึ่งทำให้ประจุไฟเข้าไปยังแบตเตอรี่ได้น้อยมากไม่เพียงพอต่อการใช้งาน หรือ ไม่สามารถประจุไฟเข้าไปได้เลย

 


อายุการใช้งานของแบตเตอรี่รถยนต์ แบตเตอรี่มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ

    1.แบบเปียก นิยม ใช้กันเป็นส่วนใหญ่ แบ่งย่อยออกได้อีกเป็น 2 แบบ คือ แบบที่ต้องเติม และ ดูแลน้ำกลั่นบ่อยๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง กับ แบบไม่ต้องดูแลบ่อย (Maintenance Free) ซึ่งจะกินน้ำกลั่นน้อยมาก โดยทั้ง 2 แบบนี้จะมีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น ในแบบแรกนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 1.5-2 ปี แต่ไม่ควรเกิน 3 ปี ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งาน และ การดูแลรักษา ถ้ามีการดูแลรักษาอยู่สม่ำเสมอก็จะทำให้แบตเตอรี่รถยนต์มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ขึ้น อย่างไรก็ดีเมื่อถึงอายุการใช้งานของมันก็สมควรที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ได้แล้ว

    2.แบบแห้ง ไม่ต้องเติมน้ำกลั่น มีความทนทาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่า และ มีราคาแพง แบตเตอรี่รถยนต์แบบ แห้งนี้จะมีอายุการใช้งานโดยประมาณ 5-10 ปี แบตเตอรี่แบบนี้ไม่มีฝาปิด-เปิดสำหรับเติมน้ำกลั่น หรือไม่ก็ถูกซีลทับฝาไปเลย แต่จะมีตาแมวไว้สำหรับไว้คอยตรวจเช็คระดับน้ำกรด และ ระดับไฟชาร์จ

การเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์

        ในการเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ลูก ใหม่นั้น ถ้าหากว่าไม่ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์อะไร เพิ่มเติมขึ้นมา เช่น ติดตั้งพวกระบบเครื่องเสียงต่างๆ หรือ ติดตั้งพวกอุปกรณ์เพื่ออำนวยความสะดวกต่างๆ ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปเปลี่ยนแบตเตอรี่ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้น เพราะจะเป็นการทำให้สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ เพราะบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ได้มีการคำนวณ และ เลือกขนาดของแบตเตอรี่ให้เหมาะสมกับการใช้งานของรถรุ่นนั้นๆอยู่แล้ว

        แต่ถ้ามีการติดตั้งอุปกรณ์ดังกล่าวเพิ่มเติมขึ้นมาก็สามารถเปลี่ยนแบตเตอรี่ ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้นได้สิ่ง ที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรกก็คือ แบตเตอรี่ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้นมักจะมีขนาดของตัวแบตเตอรี่ใหญ่ขึ้นด้วย ดังนั้นฐานของแบตเตอรี่เดิมติดรถสามารถรองรับได้หรือไม่

        ไม่ควรที่จะ เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ โดยไปลดขนาดของแอมป์ลงโดยเด็ดขาด แต่สามารถเลือกแบตเตอรี่ที่มีขนาดของแอมป์สูงขึ้นได้โดยประมาณ 10-30 แอมป์ 

 

 

การชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่รถยนต์ 

การชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่ หรือ การประจุไฟเข้าไปในแต่ละครั้งนั้น ควรจะเลือกใช้การชาร์จอย่างช้าเอาไว้ และทิ้งไว้ซักประมาณ 5-10 ชั่วโมง โดยเฉพาะในการเปลี่ยนแบตเตอรี่ลูกใหม่ ทั้งนี้ก็เพื่อให้แบตเตอรี่รถยนต์เสื่อมสภาพได้ช้าลง และ มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น แต่ตามร้านที่เปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์โดยทั่วไป มักจะใช้วิธีชาร์จเร็วเพื่อรีบให้บริการลูกค้า ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่ลูกนั้นเสื่อมสภาพเร็ว ต้องเวียนมาเปลี่ยนใหม่เร็วขึ้นเล็กน้อย  

 


ข้อควรระวังในการทำงานกับแบตเตอรี่

        เนื่องจากในแบตเตอรี่นั้นมีสารเคมีอยู่ภายใน เช่น สารตะกั่ว น้ำกรด เป็นต้น ดังนั้นในการทำงานกับแบตเตอรี่ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ

  1. ให้ระมัดระวังพวกไฟ หรือ ประกายไฟต่างๆ รวมทั้งประกายไฟจากการสูบบุหรี่ด้วย
  2. ให้ทำการสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา
  3. ระวังอย่าให้เด็กเข้าใกล้น้ำกรด และ แบตเตอรี่
  4. การจัดวางและจัดเก็บแบตเตอรี่เก่าควรจัดวางและเก็บในสถานที่ที่ปลอดภัยและ เป็นจุดที่จัดเก็บแบตเตอรี่โดยเฉพาะไม่วางทิ้งเกลื่อนกลาด
  5. ไม่ควรทิ้งแบตเตอรี่รถยนต์เก่าลงในถังขยะปกติธรรมดาทั่วไป
  6. ให้ระมัดระวังอันตรายจากแบตเตอรี่ระเบิด ในขณะที่ทำการชาร์จแบตเตอรี่นั้นจะมีแก็สเกิดขึ้น ซึ่งแก็สนั้นเป็นสารที่ทำให้เกิดการระเบิดได้อย่างสูง
  7. ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำบนตัวแบตเตอรี่ ปฏิบัติตามคู่มืองานซ่อมประจำอู่เรื่องระบบไฟฟ้า และ ปฏิบัติตามคู่มือประจำรถ
  8. ให้ระวังอันตรายจากน้ำกรดเวลาเดือด น้ำกรดในแบตเตอรี่นั้นเป็นสารกัดกร่อนอย่างรุนแรง ดังนั้นควรสวมอุปกรณ์ป้องกันดวงตา และ ถุงมือขณะที่ทำงานในกรณีนี้อยู่ รวมทั้งระวังอย่าเอียง หรือ ตะแคงแบตเตอรี่เป็นอันขาด เพราะน้ำกรดสามารถรั่วไหลออกมาทางรูระบายได้

ข้อมูลจาก

- บทความของคุณ วรพล สิงห์เขียวพงษ์
- เว็บไซด์ของ 3k แบตเตอรี่,
- เว็บไซด์Yuasa แบตเตอรี่
- เว็บไซด์ Bosch แบตเตอรี่
- Elsa Win
- คุณกริช เกษมรัชดารักษ์



เข้าชม : 7463


เธ„เธงเธฒเธกเธฃเธนเน‰เน€เธเธตเนˆเธขเธงเธเธฑเธšเนเธšเธ•เน€เธ•เธญเธฃเธตเนˆ 5 อันดับล่าสุด

      เธขเธทเธ”เธญเธฒเธขเธธเธเธฒเธฃเนƒเธŠเน‰เธ‡เธฒเธ™เนเธšเธ•เน€เธ•เธญเธฃเธตเนˆ 21 / ก.ย. / 2552
      เธเธฒเธฃเธžเนˆเธงเธ‡เนเธšเธ•เน€เธ•เธญเธฃเธตเนˆเธฃเธ–เธขเธ™เธ•เนŒ 21 / ก.ย. / 2552
      เนเธšเธ•เน€เธ•เธญเธฃเธตเนˆเธฃเธ–เธขเธ™เธ•เนŒเธ—เธณเธ‡เธฒเธ™เธญเธขเนˆเธฒเธ‡เน„เธฃ 21 / ก.ย. / 2552
      เนเธšเน‡เธ•เน€เธ•เธญเธฃเธต เธฃเธ–เธ„เธธเธ“ เธขเธฑเธ‡เธชเธšเธฒเธขเธ”เธตเธญเธขเธนเนˆเธซเธฃเธทเธญเน€เธ›เธฅเนˆเธฒ? 21 / ก.ย. / 2552
      เนเธšเธ•เน€เธ•เธญเธฃเธตเนˆเธฃเธ–เธขเธ™เธ•เนŒ : เธฃเธตเน„เธ‹เน€เธ„เธดเธฅเน„เธ”เน‰ เธ•เน‰เธญเธ‡เนƒเธชเนˆเนƒเธˆเธชเธดเนˆเธ‡เนเธงเธ”เธฅเน‰เธญเธกเธ”เน‰เธงเธข 21 / ก.ย. / 2552


 

 
ธรรมรัต คาร์ออดิโอ 13/342-3 หมู่18 ถนนลำลูกกา ตำบลคูคต อำเภอลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี 12130
Tel : 02-995-9204-5  Fax : 02-995-9206  E-mail : info@batterythai.com